ยุคที่ความก้าวหน้าและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากในชีวิตประจำวันของเรา ความบันเทิงต่างๆ ที่ส่งผ่านหน้าจออกมา ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับภาพและเสียงบนจอนานวันละหลายชั่วโมง รู้หรือไม่?! การจดจ่อกับหน้าจอเป็นเวลานาน สะสมจนทำให้เกิด “สมาธิสั้น” ได้ โดยส่งผลกระทบต่อความคิด การวางแผน และการจัดการบริหารชีวิต
- คลื่นความถี่ของจอภาพ ทำให้สายตาจ้องโฟกัสกับความเคลื่อนไหวภาพตลอดเวลา
- การจดจ่อกับเรื่องที่ผ่านตาเร็วเกินไป จนไม่ยอมละสายตา และไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
- เกิดปัญหาการใช้สมองส่วนความจำลดลง ทำให้ไม่สามารถให้ความสนใจและเรียนรู้ได้
อาการแบบนี้ บ่งบอก ลูกติดมือถือหนัก!
พฤติกรรมติดมือถือ ส่งผลกระทบทั้งในด้านพฤติกรรมและอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ช่วงวัยก่อนเข้าเรียน การปล่อยให้ลูกเล่นมือถือ และอยู่กับหน้าจอเพียงลำพังนานเกินไป ส่งผลให้เกิดปัญหาการใช้สมองส่วนความจำลดลง เนื่องจากสมองลดการสื่อประสาทไปยังสมองส่วนหน้า หากมีพฤติกรรมติดมือถือ อยู่กับหน้าจอนานเกินวันละหลายชั่วโมง การทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน จะสะสมให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้
เช็ก คุณเข้าข่าย “สมาธิสั้น” แล้วหรือยัง?
- ขาดสมาธิ วอกแวกง่าย ไม่จดจ่อกับสิ่งที่ทำ
- บริหารจัดการเวลาไม่ดี ละเลยในรายละเอียด
- ขี้ลืมเป็นประจำ ทำของหายบ่อยๆ
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เบื่อง่าย
- หุนหันพลันแล่น ชอบพูดโพล่ง ขัดจังหวะบทสนทนา
- กระสับกระส่าย วิตกกังวล ไม่สามารถรอคอยนานๆ ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.sikarin.com